ภาครัฐและเอกชนผนึกกำลังร่วมผลักดันการท่องเที่ยว ‘นครศรีธรรมราช’พร้อมชูศักยภาพสู่ทำเลที่อยู่อาศัยลักชัวรี่อย่างยั่งยืน

  • ททท. และผู้ว่าราชการจังหวัด ตอกย้ำ ‘นครศรีธรรมราช’ เป็นสวรรค์แห่งการผจญภัย
  • เอกชนผุดทัวร์ใหม่ เน้นเส้นทางสำรวจภูเขาและป่าไม้ของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง
  • เตรียมผุดโครงการ Urasaya’ (อุรัสยา) ที่อยู่อาศัยลักชัวรี่ที่ตอบรับชีวิตยุคใหม่ใกล้ธรรมชาติอย่างแท้จริง

อุทยานแห่งชาติเขาหลวงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นความลับที่ดีที่สุดของประเทศไทย ภาพโดย Anuchit Ngoylung

สิชล ประเทศไทย – ภาครัฐและภาคเอกชนผนึกกำลังดันการท่องเที่ยว ‘นครศรีธรรมราช’ ให้เป็นที่รู้จักระดับโลก ชูศักยภาพภูมิประเทศที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และเสน่ห์วิถีชีวิตวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ไปจนถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รุดหน้า พร้อมเตรียมดึงโครงการที่พักและที่อยู่อาศัยมาตรฐานสากล ยกระดับจังหวัดให้ดึงดูดยิ่งขึ้น

 

นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติมากมาย ตั้งแต่เนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่า ไปจนถึงหาดทรายอันงดงาม จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ภูมิภาคอันน่าหลงใหลแห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่า ‘ปอดสีเขียวของประเทศไทย’ อย่างไรก็ตาม เป็นเวลาหลายปีที่นครศรีธรรมราชยังคงเป็นความลับ ดึงดูดเฉพาะชาวไทย และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศบางส่วนเท่านั้น ดังนั้น ในปีนี้จึงได้มีการหารือกับหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อวางแผนเปลี่ยนแปลงให้นครศรีธรรมราชก้าวสู่จุดหมายปลายทางที่เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในระดับโลก

นครศรีธรรมราชมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีภูเขายาว 200 กม. หาดทรายยาว 200 กม. และคุณภาพอากาศที่สมบูรณ์แบบที่สุด ในอนาคตเรายังจะพัฒนาภาคส่วนการแพทย์และสุขภาพให้ก้าวหน้าอีกด้วย และเราพร้อมแล้วที่จะเผยศักยภาพเหล่านี้ให้ทั่วโลกได้รู้จักและมาสัมผัสเรามากยิ่งขึ้นนายอภินันท์กล่าว

 

ปัจจุบัน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของนครศรีธรรมราชมีความคืบหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่ที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช จะมีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ซึ่งจะทำให้จังหวัดนี้เปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่จากต่างประเทศด้วยเที่ยวบินตรงที่คาดว่าจะมาจากสิงคโปร์ ไต้หวัน จีน และมาเลเซีย เช่นเดียวกับ “โครงการสะพานเกาะสมุย” กำลังอยู่ในระหว่างการหารือ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ที่จะขยายตัวกว้างขึ้น โดยในช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการพัฒนาครั้งใหญ่นี้ สำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต่างก็ยืนยันแผนการเพิ่มการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยยึดหลักสำคัญของธรรมชาติและชุมชน

 

นางพิชญ์สินี ทัศน์นิยม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครศรีธรรมราช กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นที่ธรรมชาติและชุมชน เรารู้สึกว่าสิ่งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นกว่าที่เคย เนื่องจากเป็นโอกาสในการหลีกหนีจากความวุ่นวาย สู่การพักผ่อนที่แท้จริง และสัมผัสกับธรรมชาติอีกครั้ง”

ซ้าย: นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช        เดวิด จอห์นสัน CEO Delivering Asia Communications    นายราวี จันดราน  และคุณพิชญ์สินี ทัศน์นิยม ททท. นครศรีธรรมราช

 

นอกจากนั้น ภาคเอกชนและบริษัททัวร์ผู้เชี่ยวชาญได้เปิดเผยแผนการเดินทางใหม่สำหรับนครศรีธรรมราช โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Tarzan Adventure ได้เปิดตัวโปรแกรมเดินป่าสไตล์หลังมังกร ที่จะพาผู้แสวงหาประสบการณ์เดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาหลวง สันเขา ป่าอันเขียวชอุ่ม น้ำพุร้อนธรรมชาติ น้ำตก ตลอดจนหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกแบบอันซีน รวมถึงรูปแบบทัวร์การผจญภัยแบบหลายวันในการพิชิตยอดเขาหลวง ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศไทยที่ความสูงถึง 1,780 เมตร

ด้าน นายราวี จันดราน (Mr. Ravi Chandran) อดีตซีอีโอของลากูน่าภูเก็ต ปัจจุบันในฐานะที่ปรึกษาอาวุโสของ Urasaya (อุรัสยา) โครงการที่อยู่อาศัยแห่งใหม่บนหาดสิชล ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและได้แรงบันดาลใจจากท้องถิ่น ซึ่งจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ กล่าวว่า นครศรีธรรมราชมีเอกลักษณ์และบริสุทธิ์เหมือนย้อนไปสู่ 30 ปีที่แล้ว ทุกอย่างยังคงอยู่อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามตามธรรมชาติ วัฒนธรรมที่แท้จริง และความเงียบสงบอย่างสมบูรณ์แบบ และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต้องการมาสัมผัส ซึ่งเป็นโอกาสของการเริ่มต้นใหม่สำหรับการท่องเที่ยวและการอยู่อาศัยในนครศรีธรรมราช ด้วยการเปิดรับอนาคตที่กำหนดโดยมรดก ธรรมชาติ และความยั่งยืน

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ