เปิดแล้ว! มหกรรมการท่องเที่ยวไต้หวัน “Taiwan One More Time ครั้งที่ 6” งานเดียวรวมดีลเที่ยว-กินครบแบบใหม่ไม่ซ้ำใคร วันนี้ – 22 ตุลาคม 2566 ที่สีลมคอมเพล็กซ์

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – คนรักการท่องเที่ยวและไต้หวันเลิฟเวอร์ต้องถูกใจงานนี้! เมื่อ สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำประเทศไทย ร่วมกับ ศูนย์การค้าสีลมคอมเพล็กซ์ และเหล่าพลคนรักไต้หวัน จัดงาน “Taiwan One More Time ครั้งที่ 6” ตอน: เที่ยวไต้หวันอีกครั้งต้องไม่ซ้ำใคร” มหกรรมการท่องเที่ยวที่รวบรวมข้อมูลไต้หวันไว้แบบครบจบในที่เดียว ภายใต้คอนเซปต์ “กิน ช้อป เที่ยวไต้หวัน ในงานเดียว” ยกทัพแพ็คเกจโปรแกรมท่องเที่ยว ดีลราคาพิเศษจากสายการบินชั้นนำ การจำหน่ายของฝากยอดนิยมส่งตรงจากไต้หวัน และกิจกรรมให้ความรู้โดยกูรูไต้หวันอีกมากมาย วันนี้ – 22 ตุลาคม 2566 นี้ ณ ศูนย์การค้าสีลมคอมเพล็กซ์

เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับงาน “Taiwan One More Time ครั้งที่ 6” มหกรรมการท่องเที่ยวไต้หวันสุดฮอตอีกงานหนึ่งที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมไต้หวันของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยงานเปิดตัวได้รับเกียรติจาก คุณเซีย ซิ่ว เม่ย รองผู้แทนรัฐบาลไต้หวัน สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วยผู้นำจากองค์กรชั้นนำ ได้แก่ คุณซินดี้ เฉิน ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ (กทท.) คุณฐิตากรณ์ แสงศรี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าสีลมคอมเพล็กซ์ คุณเฉิน ฮั่น ชวน ประธานหอการค้าไทย ไต้หวัน ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป ฟ้า – บุญญาดา วงษ์วิริยะ จากวง Nikko Nikko มิ้นต์ – อรุณรัตน์ ศิริสานต์ จากวง The Glass Girls และคุณกิจชรัตน์ นทีธำรงสุทธิ์ ผู้จัดงานมหกรรมการท่องเที่ยวไต้หวัน ร่วมเปิดงานอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

 

งานปีนี้จัดหนักจัดเต็มกว่าที่เคย มีแพ็คเกจสุดปังเอาใจคนรักไต้หวันให้ได้ฟินแบบไม่พัก ภายในงานประกอบด้วยบูธแพ็คเกจท่องเที่ยวไต้หวันในราคาพิเศษจากโรงแรมชั้นนำ และสายการบิน China Airlines, EVA AIR, Starlux Airlines, Vietjet Air ที่มาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในไต้หวันที่ไม่ซ้ำใคร อาทิ เช็คอินแลนด์มาร์ค “ตึกไทเป 101” ติดอันดับ Top 10 สูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเมืองไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน ดื่มด่ำศิลปะที่ “Gaomei Wetland” เมืองไถจง เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องศิลปะและพื้นที่ที่กว้างใหญ่ สูดอากาศบริสุทธิ์ธรรมชาติอันงดงาม ณ “วนอุทยานแห่งชาติอาลีซาน” เมืองเจียอี้ หรือไป “ท่องรถไฟอาลีซาน” สัมผัสทิวทัศน์ของดอกไม้บานสะพรั่งตลอดเส้นทางสุดโรแมนติก แล้วปิดท้ายที่ “หมู่บ้านฮิโนกิ” เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและใส่ชุดยูกาตะเดินเล่นในหมู่บ้านที่เคยเป็นที่พำนักของชาวญี่ปุ่นในช่วงปกครองไต้หวัน

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายของฝากยอดนิยมจากไต้หวัน ยกขบวนมาเอาใจขาช้อป อาทิ ขนมตังเมไต้หวัน เนื้อเนียนนุ่มไส้แน่น หวานกรอบอร่อยพอดีคำ จากร้าน “Sugar & Spice” แบรนด์อันดับ 1 ครองใจคนไต้หวัน, เค้กพายสับปะรด สูตรเด็ดจากไต้หวัน และสินค้าขึ้นชื่อและอาหารจากไต้หวันให้เลือกซื้อมากมาย อีกทั้งในงานยังมี กิจกรรมให้ความรู้การเตรียมพร้อมก่อนเที่ยวไต้หวัน จากบล็อกเกอร์ไต้หวันในไทย และกิจกรรมเวิร์กช็อปทำชานมไข่มุกจากร้าน GW Tea House ทุกวัน

พิเศษสุดสำหรับผู้เข้าร่วมงาน! ลุ้นไปกับกิจกรรมแจกตั๋วเครื่องบินฟรี จากสายการบิน Vietjet Air จำนวน 6 ที่นั่ง ลุ้นรับห้องพักโรงแรมชั้นนำ จากเมืองหนานโถว รับชมมินิคอนเสิร์ตจากวง The Glass Girls และ NIKKO NIKKO และสิทธิพิเศษอีกมากมายที่งาน เข้างานฟรีทุกวัน

 

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

กิน ช้อป เที่ยวไต้หวันในงานเดียวที่ “Taiwan One More Time ครั้งที่ 6” โดยงาน วันนี้ – 22 ตุลาคม 2566 เวลา 11:00-20:00 น. ชั้น G Silom Complex ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: @Taiwan One More Time

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ