บริษัท สเปซ วอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่ม แบรนด์ สเปซ วอเตอร์ (Space Water) เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ “Space Flavored Water” น้ำดื่มผสมกลิ่น ที่มีรสชาติและสีใกล้เคียงน้ำเปล่ามากที่สุดในประเทศไทย พร้อมชูกลิ่นไฮไลท์ อุทัยสเปซ (UTAISPACE) น้ำกลิ่นสมุนไพรที่คุ้นเคย ดับกระหายคลายร้อน ปลุกคืนความสดชื่น หวังเจาะกลุ่มผู้บริโภคในตลาดน้ำดื่มบรรจุขวด สร้างมิติใหม่ในการดื่มน้ำช่วงซัมเมอร์

 

“Space Flavored Water” น้ำดื่มผสมกลิ่น เปิดตัวด้วยกลิ่น อุทัยสเปซ (UTAISPACE)
น้ำกลิ่นสมุนไพร ซึ่งเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ในการใช้กลิ่นอุทัย ซึ่งเป็นกลิ่นยอดฮิตของสาวๆ ในยุค Y2K มาเป็นกลิ่นเรือธงของสินค้า ซึ่งพร้อมด้วยสรรพคุณที่ช่วยดับกระหาย คลายร้อน สร้างความสดชื่น และยังหอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ มีรสชาติใกล้เคียงกับน้ำเปล่ามากที่สุด โดยไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล ไม่ใส่วัตถุกันเสีย สามารถดื่มทดแทนน้ำเปล่าได้ ขณะเดียวกันยังถูกออกแบบมาให้เป็นเครื่องดื่มประเภท Functional Drink ที่มีส่วนผสมของ คอลลาเจน ซิงค์ และวิตามินบี 6 ที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย ขนาดบรรจุ 500 ml. มาพร้อมกับดีไซน์น่ารักพาสเทล ราคาเพียงขวดละ 10 บาท
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 กลิ่นแนะนำ ซอฟพีช (Soft Peach) น้ำกลิ่นพีช และซอฟไรซ์ (Soft Rice) น้ำกลิ่นข้าวหอม ที่มีแผนทำการตลาดต่อจากกลิ่นอุทัยสเปซ โดยช่องทางการจัดจำหน่ายขณะนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าขายส่ง และช่องทางออนไลน์ Shopee: https://shopee.co.th/spaceflavoredwater และ Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/space-flavored-water
และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ร่วมชิม Space Flavored Water ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มผสมกลิ่นอุทัยสเปซ (UTAISPACE) ได้ที่บูธกิจกรรมของ Space Water ทั่วกรุงเทพฯ สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของ Space Water ได้ที่ www.spacewaterfactory.com และ Facebook: SPACE Flavored Water
###

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ