วันนี้ (27 ธ.ค.65)  เวลา 17.00 น. กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดพิธีปล่อยแถวส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2566 (New Year 2023) ณ บริเวณลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยเป็นการแสดง ความพร้อมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท่องเที่ยวในการดูแลนักท่องเที่ยว และประชาชนในช่วงเทศกาลต้อนรับ ปีใหม่ พ.ศ. 2566 (New Year 2023) โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา เป็นประธานในพิธี

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทั่วราชอาณาจักร การดูแลความปลอดภัยให้บริการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้เล็งเห็นความสำคัญในหลักการดังกล่าวข้างต้น จึงได้จัดพิธีปล่อยแถวส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ต้อนรับเทศกาล   ปีใหม่ 2566 (New Year 2023) และเป็นการยกระดับเพิ่มอันดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว     ของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้านการรักษาความปลอดภัย และสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

ดังนั้น การปล่อยแถวในครั้งนี้ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวรับทราบถึงความตั้งใจ ของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะความพร้อมของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 (New Year 2023) นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขอฝากถึงนักท่องเที่ยว     และพี่น้องประชาชน ท่านสามารถแจ้งเหตุผ่านสายด่วน 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง และแอพพลิเคชั่น ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว  Tourist Police i lert u

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ