รอบตัดสิน ‘โครงการประกวดนักวางแผนโฆษณาการตลาดดิจิทัล’ Advertising Mastermind Challenge: AMC

 

 

จบลงพร้อมรอยยิ้มของผู้กำชัยชนะ สำหรับโครงการประกวดนักวางแผนโฆษณาการตลาดดิจิทัล Advertising Mastermind Challenge: AMC เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุม 501 อาคาร A5 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต

 

เริ่มเปิดการแข่งขัน Final Pitching โดย ดร.ไกรฤกษ์ ปิ่นแก้ว คณะบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย ดร.กิตติภูมิ ศุภมนตรี ผู้อำนวยการหลักสูตรการตลาดดิจิทัล จากนั้นจึงแนะนำคณะกรรมการผู้ตัดสิน ได้แก่

  1. คุณลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) หรือพี่ดาว มาสเตอร์พีช
  2. คุณอุทัยวรรณ พนาโยธากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่
  3. ดร.กุลบุตร โกเมนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ArokaGO
  4. ดร.แพทย์หญิงประภา วงศ์แพทย์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพไทย
  5. นพ.สิริชัย ชัยสุธรรมพร กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์ม ArokaGO

 

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นปี 4 และปี 2

รุ่นปี 4

  1. GG
  2. มิสซันชายน์
  3. Prisma
  4. อย่าอ่อม
  5. Born to be

และ รุ่นปี 2

  1. 999
  2. Overake
  3. กูจะเครซี
  4. กลุ่มนี้เป็นอินโทรเวิร์ต
  5. อะโลค่าเรา

 

 

 

ผลการตัดสิน รุ่นปี 4 ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศได้แก่ ทีมPrisma  และ รุ่นปี 2 ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมกลุ่มนี้เป็นอินโทรเวิร์ด ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับทุกทีมการตลาดที่เข้ารอบสุดท้าย ทุกคนทุ่มเทในการนำเสนอและทำผลงานอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยม พี่ดาว มาสเตอร์พีช เห็นถึงความตั้งใจนั้น จึงตบรางวัลด้วยการมอบเงินรางวัลพิเศษให้กับทุกทีมที่เข้ารอบ เป็นทุนการศึกษาจำนวน 3,000 บาท รวม 10 ทีม

 

นอกจากนี้ Special Guest นำทีมโดย คุณโม – อินทิราพร บุริทรวานิช รองประธานสายงานการตลาด บริษัท คิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (KIN Corp.) ผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดหนึ่งในพาร์ตเนอร์ของ MASTER ได้นำทีมการตลาดดิจิทัลเข้าร่วมสังเกตการณ์ พร้อมมอบรางวัลพิเศษให้กับทีมที่โดนใจ (ได้แก่ ทีมอะโลค่าเรา)

 

ที่สำคัญคือความตั้งใจและทุ่มเท บวกกับไอเดียสดใหม่ ไม่ผิดถ้าจะบอกว่าน้องๆ ทุกคนเป็นผู้กำชัยชนะ และเชื่อว่าอนาคตเราจะมีคนรุ่นใหม่จบออกมาเป็นนักการตลาดดิจิทัลมือฉมัง

………………………………..

MASTER #MasterpieceHospital #นักวางแผนโฆษณาการตลาดดิจิทัล #AdvertisingMastermindChallenge #AMC #คณะบริหารธุรกิจ #มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ