วันนี้คุณลองให้อิสรภาพไข่คุณหรือยัง?
GQ Apparel พร้อมปฏิวัติวงการบ๊อกเซอร์ชายไทย ให้ไข่เย็นโล่ง..จนลืมว่าใส่

เมื่อความเย็นไม่ได้จำกัดอยู่แค่ที่ไข่เท่านั้น GQ Cool Tech™+ Freeflow Boxer พร้อมปฏิวัติวงการบ๊อกเซอร์ชายไทย

เบื่อไหมกับบ๊อกเซอร์ที่ใส่ไม่สบายไม่ระบายอากาศ บ๊อกเซอร์ที่ผ้าบางเกินไปจนมองเห็นของลับ หรือเอวบ๊อกเซอร์ที่รัดเอวจนเป็นรอยแดง GQ Apparel แบรนด์นวัตกรรมเสื้อผ้าชายไทย พร้อมแก้ไขทุกปัญหาที่คนใส่บ๊อกเซอร์ต้องเจอ ด้วย GQ Cool Tech™+ Freeflow Boxer (บ๊อกเซอร์เย็นรอบด้าน) นวัตกรรมใหม่ที่พร้อมให้สัมผัสกับความเย็นแบบทุกอณูของเนื้อผ้า

นวัตกรรมใหม่จาก GQ Apparel ผู้นำทางด้านเสื้อผ้าผสานนวัตกรรม ที่ช่วยแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้สวมใส่ กับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด GQ Cool Tech™+ (จีคิวคูลเทคพลัส) ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจาก “กางเกงในไข่เย็น” สินค้าที่มียอดขายมากกว่า 2 ล้านตัว ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเจลเย็นมาผสมผสานลงในเนื้อผ้าทั้งผืน ซึ่งสามารถมอบความเย็นสบายให้แก่ผู้สวมใส่ได้ทั้งทั่วตัว มาพร้อมกับการออกแบบที่คำนึงถึงความสบายในการสวมใส่ ความสะดวกในชีวิตประจำวันเป็น

สำหรับ GQ Cool Tech™+ Freeflow Boxer (บ๊อกเซอร์เย็นรอบด้าน) จะมาพร้อมกับผ้าคอตตอนที่ผสานเจลเย็น Cool Tech™ ทั้งตัว ช่วยมอบความสบายในการสวมใส่ พร้อมลดอุณหภูมิให้เย็นลงสูงสุด 2 องศา เอวด้านในมาพร้อมกับ GQ Comfort Waistband ผ้าทอหนานุ่มที่คอยป้องกันเอวของคุณไม่ให้เกิดรอยระหว่างสวมใส่, GQ Stealth Access ช่องลับด้านหน้าสำหรับกิจกรรมส่วนตัว ให้คุณได้เข้าห้องน้ำได้อย่างสะดวกเพียงแค่ปลดกระดุม พร้อมปกปิดอวัยวะสำคัญระหว่างสวมใส่ โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี (Blue, Black Checked, Dark Blue, Gray)

สัมผัสประสบการณ์ความเย็นครั้งใหม่ของ GQ Cool Tech™+ ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ GQ ในห้างสรรพสินค้า Central เเละ Robinson ทั่วประเทศ
#GQApparel #GQใส่แล้วเวิร์ค #GQCoolTech #GQCoolTechPlus #FreeflowBoxer #ชุดชั้นในชาย #GQworkwear #Workwearthatworks #เสื้อผ้าของคนรักงาน

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ