“เกเตอเรด” พานักเตะ “ทีมโรงเรียนสนามชัยเขต” บินลัดฟ้า
สู่ศึกการแข่งขัน Gatorade UCL Final 5v5 Experience ณ ประเทศอังกฤษ


เครื่องดื่มเกลือแร่ “เกเตอเรด” โดย บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด มอบประสบการณ์อันล้ำค่า พาสุดยอดนักเตะ “ทีมโรงเรียนสนามชัยเขต” จากจังหวัดฉะเชิงเทรา แชมป์การแข่งขัน “Gatorade 5v5 Football 2024” บินตรงสู่ดินแดนลูกหนัง เพื่อร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายกับทีมแชมป์เยาวชนจากนานาประเทศในการแข่งขันรายการ “Gatorade UCL Final 5v5 Experience” ซึ่งจัดโดย PepsiCo Inc. ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ นายณุวัฒน์ เมธปรีชากุล ผู้จัดการอาวุโสสินค้าไฮเดรชั่น บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ให้เกียรติร่วมเดินทางไปพร้อมทีมนักฟุตบอลตัวแทนแชมป์ประเทศไทย “ทีมโรงเรียนสนามชัยเขต” ประกอบไปด้วย เดช-ภูวดล กุตโต, สุรพัฒน์ ใหม่เมธีพรหมพิริยะ พรมบุตร, ฐิติภัทร ทิพย์นนท์, กนกเทพ ศรีเนตร, ณวัฒน์ เครือมั่น และอาจารย์กอล์ฟ-วุฒิไกร ชายกวด เพื่อร่วมศึกการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ “Gatorade UCL Final 5v5 Experience” ซึ่งจัดโดย
PepsiCo Inc. ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2567

เกเตอเรด เชื่อมั่นว่าการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน ‘Gatorade 5v5’ ที่เราจัดมาอย่างต่อเนื่อง จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนานักฟุตบอลเยาวชนให้กับวงการลูกหนังไทย และถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่เราจะยังคงเดินหน้าสานต่ออย่างไม่หยุดยั้ง โดยเราจะยังคงเคียงข้างพร้อมเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ นำประสบการณ์ในครั้งนี้ไปเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเองต่อไปและนำความภาคภูมิใจกลับมายังประเทศไทย

แฟนบอลหรือผู้สนใจสามารถติดตามผลการแข่งขันหรือกิจกรรมในครั้งต่อไป ดูรายข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Gatorade 5v5 Football Thailand

###

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ