ขอเชิญร่วมงานเสวนา “One Voice One Peace: Multicultural Power and Unity in Diversity หนึ่งเสียงแห่งสันติภาพ : พลังแห่งพหุวัฒนธรรม และ ความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลาย
ในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2567 เวลา 16.00 –21.00 น. ณ โรงแรมอัลมีรอซ ถนนรามคำาแหง ซอย 5 กรุงเทพฯ

โดยภายในงานจัดให้มีการเสวนาพหุวัฒธรรม ของ 4 ศาสนา ศาสนาพุทธ
ศานาคริตส์ ศาสนาซิกข์ และศาสนาอิสลาม ภายใต้หัวข้อ “One Voice One Peace: Multicultural Power and Unity in Diversity
หนึ่งเสียงแห่งสันติภาพ : พลังแห่งพหุวัฒนธรรม และ ความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลาย เรียนรู้ อยู่ร่วม บนความต่าง
และปาถกฐาพิเศษ โดยคุณชัยยิด มูฮัมหมัด อามีน อั้ลอิรีซี ประเทศ โมร็อคโค
โดยประจัดงาน นายอาสอารีลาเต๊ะ(บาบอซูปูลากาป๊ รองประธาน ดร.รชต ลาตีฟี

ดร.เปรมระพี พันหวังดียุกุล เจ้าของโครงการกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานเนื่องด้วยสังคมไทยในปัจจุบันเป็นสังคมร่วมสมัยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา ซึ่งนำ มาท้้งโอกาสและความท้าทายในการอยู่ ร่วมกนัอย่างสันติสุขแม้ว่าความแตกต่างอาจก่อใหเ้กิดความไม่เข้าใจอคติและความขัดแย้งแต่ในขณะเดียวกันความหลากหลายนีัสามารถเป็นแหล่งกำเนิด ของความคิดสร้างสรรค์นวัตกรรม และการเรียนรู้ซึ่งกนัและกันสังคมพหุวัฒธรรมเป็นสังคมที่มีศักยภาพในการสร้างความเข้าใจและการอยู่ร่วมกนัอย่าง สันติการส่งเสริมการสื่อสารการเรียนรู้และการเคารพซึ่งกันและกันจะเป็นรากฐานสำ คัญในการสร้างสังคมที่สงบสุขและเป็นธรรมสำาหรับทุกคน ด้วยปณิธานแห่งสันติภาพ ของคณะผู้จัดงาน “One Voice One Peace: Multicultural Power and Unity in Diversity


“หนึ่งเสียงแห่งสันติภาพ : พลังแห่งพหุวฒั นธรรม และ ความเป็นหนึ่งเดียวในความหลากหลาย” เล็งเห็นถึงความจำ เป็นอย่างยิ่ง ในการจัดงานรวมตัวของตัวแทนจากศาสนาต่างๆในครั้งนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อสร้าง ความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างผู้คนจากหลากหลายศาสนา เพื่อความเข้าใจและความเคารพในศาสนาที่หลากหลาย สร้างความสามัคคีใน สังคมพหุวัฒนธรรม กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมงานตระหนักถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและ ศาสนา ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนมมุ มองและประสบการณ์ให้โอกาสตัวแทนจากศาสนาต่างๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์และ
แนวทางการทำ งานเพื่อพัฒนาสังคมร่วมกัน ค้นหาจุด ร่วมและสร้างความร่วมมือ เน้นการค้นหาคุณค่าหรือจุดร่วมที่สามารถใช้เป็นพื้นฐานในการ ทำงานร่วมกันระหว่างศาสนาต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสร้างความเจริญกา้วหน้าพร้อมทั้ง สนับสนุนการเสริมสร้างศีลธรรมและจริยธรรมในสังคม ให้ผู้เข้าร่วมได้พิจารณาบทบาทของศาสนาในการส่งเสริมศีลธรรมและจริยธรรมที่สามารถนำปสู่การพัฒนาสังคมที่ดียิ่งขึ้น และสร้างเครือข่าย
ความร่วมมือระหว่างศาสนา สร้างความสัมพันธ์และเครือข่ายความร่วมมือระหว่างตัวแทนศาสนาต่างๆ เพื่อทำงานร่วมกันในกิจกรรมทางสังคมในอนาคตต่อไป “การจดังานจะช่วยสร้างพิ้นทีสำหรับการเสวนาเชิงบวกและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในสังคม”จึงขอเรียนเชิญท่านเขา้ร่วมงานอันทรงเกียรตินี้ในวันศุกร์ที่20กนัยายน 2567เวลา 16.00 –21.00 น. ณ โรงแรมอัลมีรอซ ถนนรามคำแหง ซอย 5 กรุงเทพฯ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะไดรับเกียรติจากท่าน ขอขอบพระคุณท่านมา ณ โอกาสนี้

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ