BOLON สนับสนุนผลงานศิลปินออทิสติกไทย
สร้างสรรค์ของที่ระลึก ลิมิเต็ดอิดิชั่น ในแคมเปญ BOLON X ARTSTORY


ตลอดช่วงปี 2024 “Bolon” แบรนด์กรอบแว่นตาแฟชั่นชั้นนำจากประเทศฝรั่งเศส ได้สนับสนุนความสามารถของศิลปินที่มีความหลากหลาย ผ่านแคมเปญ “BOLON X ARTSTORY: Fulfilling Vision, Crafting Identity-เติมเต็มมุมมองผ่านตัวตนที่ไม่เหมือนใคร” ซึ่งเป็นความร่วมมือสุดพิเศษระหว่างกรอบแว่นตา Bolon และ ArtStory by AutisticThai เพื่อสนับสนุนศิลปิน
ออทิสติกให้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ ผ่านการออกแบบกระเป๋าและหมวก เปิดมุมมองแห่งแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์


นายศุภชัย อาชีวระงับโรค Country Manager Thailand กล่าวถึงแคมเปญ “BOLON X ARTSTORY: Fulfilling Vision, Crafting Identity-เติมเต็มมุมมองผ่านตัวตนที่ไม่เหมือนใคร ว่า “Bolon แบรนด์แว่นตาชั้นนำที่มีความโดดเด่นในด้านดีไซน์และคุณภาพ ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมามากกว่า 8 ปี ทางเราจึงมุ่งมั่นที่จะขยายการสนับสนุนไปยังศิลปินออทิสติกไทย ด้วยการเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพผ่านการออกแบบกระเป๋าและหมวก เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกให้กับผู้ใช้แว่นตา Bolon” “BOLON X ARTSTORY” ครีเอทของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟออกมา 2 คอลเล็คชั่น ได้แก่


1. BOLON X ARTSTORY Tote Bag: กระเป๋าดีไซน์พิเศษที่เล่าเรื่องราวความหลากหลายผ่านลายเส้นศิลปะ
ทำออกมาในช่วง มิ.ย. – ก.ย. 2567
2. BOLON X ARTSTORY Bucket Hat: หมวกดีไซน์เท่ที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของศิลปิน
ทำออกมาในช่วง ต.ค. 2567 – ม.ค.2568
โดยของที่ระลึกทั้งสองแบบ แสดงให้เห็นว่าทุกคนสามารถเข้าถึงแฟชั่นที่ไม่เหมือนใคร และสะท้อนตัวตนผ่านแว่นตา Bolon ได้อย่างมีสไตล์ โดย Bolon ได้ขยายการรับรู้ของแคมเปญผ่านการประชาสัมพันธ์แบบ 360 องศา โดยมี ญาญ่า อุรัสยา แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Bolon ร่วมถ่ายทอดความพิเศษของของที่ระลึก BOLON X ARTSTORY ทั้ง 2 แบบ พร้อมการโปรโมตจาก KOL ชั้นนำอีกมากมาย

ของที่ระลึก Limited Edition จากแคมเปญ BOLON X ArtStory by AutisticThai ถือเป็นการสนับสนุนศิลปินออทิสติกไทย เสริมสร้างความภาคภูมิใจในผลงานและยกระดับการรับรู้ถึงศิลปะที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย เพราะศิลปะและแฟชั่นสามารถเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจและเชื่อมโยงผู้คนได้ แคมเปญฯ นี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่ทางสังคมให้กับศิลปินออทิสติกได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการออกแบบที่มีเอกลักษณ์และสะท้อนตัวตนอย่างแท้จริง


สำหรับเงื่อนไขพิเศษของการร่วมกิจกรรมในช่วงปลายปีนี้ ลูกค้าที่ซื้อแว่นตาโบลอน 1 อัน จะได้รับหมวกลิมิเต็ดอิดิชั่น
ที่ออกแบบโดยศิลปินออทิสติก 1 ใบ สามารถรับของที่ระลึกได้จนถึง 31 มกราคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและความเคลื่อนไหวของ BOLON ได้ทาง

Website: https://th.boloneyewear.com/
IG: https://www.instagram.com/boloneyewearth/

FB: https://www.facebook.com/BolonEyewearTH

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ