อาเล็กซ์ ธณาพร รังกาปาณี CEO & Founder เอเชีย เมดิแคร์ กรุ๊ป ร่วมพิธีเปิด Coffee Tasting สัมผัสวัฒนธรรมกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์จากภูมิภาคลาตินอเมริกาและกาแฟพิเศษไทย ณ กระทรวงต่างประเทศ

พิธีเปิดงานโดย ฯพณฯ นางสาวสิริลักษณ์ นิยม รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

คำกล่าวโดย ฯพณฯ คุณพิรุณ ไหลสมิต ผู้อำนวยการบริหาร ศูนย์พัฒนาคนพิการแห่งเอเชีย-แปซิฟิก (APCD) กล่าวถึงความสำคัญของงานและความร่วมมือ

งานนี้เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมกาแฟร่วมกันของประเทศไทยและละตินอเมริกา ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความร่วมมือที่มีความหมายกับ APCD เพื่อแนะนำรสชาติใหม่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟไทย

ถือว่าเป็นที่น่าชื่นชมมีเอกอัครราชทูตจากอาร์เจนตินา บราซิล ชิลี โคลอมเบีย กัวเตมาลา เม็กซิโก และปานามา เข้าร่วมด้วย โดยแต่ละประเทศต่างก็แสดงประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เปรูได้นำเสนอเมล็ดกาแฟจากพื้นที่สูงอันยอดเยี่ยมของ Kiya Peruvian Coffee ซึ่งมีรสชาติที่เข้มข้นและโดดเด่น แขกผู้ร่วมงานยังได้เพลิดเพลินกับขนมเปรูพิเศษอย่างดูลเซ เด เลเช่และทรัฟเฟิลโกโก้ ซึ่งเพิ่มสัมผัสแห่งความหวานอันน่ารื่นรมย์ให้กับประสบการณ์นี้

📍 ณ วิเทศสโมสร (ส่วนที่ 3) กระทรวงการต่างประเทศ

#กระทรวงต่างประเทศ #เอเชียเมดิแคร์ 🇧🇷 🇮🇱 🇮🇴 🇮🇹 🇲🇽 🇮🇹 #AMCGroup #thanaporn #asiamedicaregroup #kingodmedicaltoursim #Alexis #ธณาพร #บริษัทเอเชียเมดิเเคร์กรุ๊ป

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ