JKN รุกตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุภาพ เปิดตัว ‘M*U Beverage’ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและน้ำแร่อัลคาไลน์ธรรมชาติ ตั้งเป้าส่งขาย 15 ประเทศ กวาดรายได้ 800 ล้านบาทภายในปีนี้



บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจใหม่ หวังต่อยอดรายได้ ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและน้ำแร่อัลคาไลน์ธรรมชาติระดับพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ “Miss Universe” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Miss Universe Organization ที่ JKN เป็นเจ้าของ พุ่งเป้าผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 20% และเพื่อส่งออกขายทั่วโลก 80% โดยในปีแรกจะส่งออกไปยัง 15 ประเทศ ตั้งเป้าโกยรายได้ 800 ล้านบาทในปีแรก

แอน – จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส กล่าวว่า “แบรนด์ Miss Universe คือแบรนด์ที่มีความเป็นสากล และมีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่องผ่านจินตนาการที่สร้างสรรค์ M*U Beverage นับเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์ Miss Universe กลุ่มแรกที่ตอกย้ำคุณค่าดั้งเดิมของเรา นั้นคือการส่งเสริมผู้หญิงให้ตระหนักถึงพลังแห่งศักยภาพในตัวและสร้างความมั่นใจในตนเองเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคต”

คุณแอน กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกาศเปิดตัว M*U Beverage หรือ กลุ่มธุรกิจใหม่ภายใต้แบรนด์ “M*U” (Miss Universe) เกิดจากวิสัยทัศน์ของ JKN ที่ต้องการต่อยอดธุรกิจของ Miss Universe Organization ที่ดำเนินธุรกิจการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สเพียงปีละ 1 ครั้ง ให้มีความหลากหลาย โดยในปีนี้ได้เริ่มแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ๆ โดยใช้ข้อได้เปรียบของมิสยูนิเวิร์สที่เป็นแบรนด์ระดับต้น ๆ ของโลกที่ทุกคนรู้จัก และมีตำนานสืบสานมาอย่างยาวนาน

 

JKN เลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและน้ำแร่อัลคาไลน์ธรรมชาติระดับพรีเมี่ยมเป็นอันดับแรก เพราะเล็งเห็นศักยภาพของตลาดที่มีมูลค่ามหาศาล ปัจจุบัน ตลาดน้ำดื่มในประเทศไทยอยู่ที่มียอดขายประมาณ 1,300 ล้านบาทในเดือนเมษายน 2566 ในส่วนของน้ำดื่มบรรจุขวดมียอดขายอยู่ที่ 67,000 ล้านบาทในปี 2566 คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.28% ระหว่างปี 2023 – 2027 สำหรับตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 11 มีมูลค่า 47,800 ล้านบาทในปี 2020 และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย

 

 

ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะนำคุณค่าบริสุทธิ์จากน้ำมาสู่ผู้คนทั่วโลกผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมซึ่งให้ทั้งความสดชื่นและมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ JKN จึงประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม 2 ประเภท คือน้ำแร่อัลคาไลน์ธรรมชาติ M*U NØR และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ M*U ที่มีให้เลือก 5 รสชาติ

 

M*U NØR ซึ่งเป็นน้ำอัลคาไลน์แบรนด์แรกของไทยที่มาในรูปแบบขวดแก้วและบรรจุขวดในประเทศไทย ใช้แหล่งน้ำจากน้ำพุในเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ ดินแดนที่ขึ้นชื่อว่าอุดมไปด้วยน้ำแร่อันสะอาดและบริสุทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คุณค่าจากธารน้ำแข็งที่ละลายจากน้ำพุ Olfus ที่ผ่านการกรองของหินลาวาในชั้นต่าง ๆ พร้อมค่า pH 8.4

ส่วนเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ M*U เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ชีวิตประจำวันอันเร่งรีบในปัจจุบัน โดยมีส่วนผสมธรรมชาติ ปราศจากคาเฟอีน น้ำตาล และสารกันบูด และให้พลังงานน้อยกว่า 45 กิโลแคลอรี/ขวด มีให้เลือก 5 รสชาติ ประกอบด้วย Zen: รสชาเขียวและยูสุ มีส่วนผสมแมกนีเซียม แอล-ธีอะนีน และกาบา ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวลและความเครียด, Immune: รสเลมอน มีส่วนผสมวิตามินซีและ Astragalus ซึ่งเป็นสมุนไพรจีน ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน Focus: รสเบอร์รี่ มีส่วนผสมกลุ่มกรดอะมิโน 3 ชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองและสร้างสมาธิ, Happy: รสราสเบอร์รี่ และมิ้นต์ มีส่วนผสมวิตามินบีคอมเพล็กซ์และแมกนีเซียม ช่วยให้รู้สึกสงบ รักษาระดับอารมณ์และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ Fiber +: รสสับปะรดและมะพร้าว เสริมใยอาหารเพื่อให้รู้สึกอิ่มนานตลอดทั้งวัน

 

 

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นผลมาจากการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “Pageant Platform Product” ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส โดย เจเคเอ็น มีวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจด้วยการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ๆ หรือเปิดบริษัทลูกเพื่อต่อยอดรายได้ จากเดิมที่องค์กรมิสยูนิเวิร์สมีเพียงเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่ทุกคนรู้จักในฐานะแพลตฟอร์มเพื่อการยกระดับศักยภาพของสตรีทั่วโลก (Women’s Empowerment) จนในที่สุด บริษัท ฯ ได้เล็งเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจด้วยการใช้ชื่อเสียงที่โด่งดังทั่วโลกและประเพณีตกทอดของเวทีประกวด เพื่อสร้างความหลากหลายของธุรกิจ และต่อยอดรายได้

เพื่อยืนยันความเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลก JKN ได้เซ็นสัญญากับ อาร์บอนนีย์ เกเบรียล มิสยูนิเวิร์ส 2022 ในฐานะพรีเซนเตอร์ของน้ำแร่อัลคาไลน์ธรรมชาติ M*U NØR ด้วยภาพลักษณ์อันสะท้อนถึงความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความสามารถรอบด้าน มุ่งมั่นต่อการเสริมสร้างชีวิตและสุขภาพที่ดีในทุกวัน

สำหรับในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ M*U Beverage จะวางจำหน่ายตามช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ตลอดจนผ่านช่องทางกลุ่มธุรกิจโฮเรกา ประกอบด้วย โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่และธุรกิจจัดเลี้ยงชั้นนำ เช่น กลุ่มโรงแรมเชอราตันและกลุ่มโรงแรมพูลแมน เป็นต้น

บริษัทตั้งเป้าส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้ง 2 ประเภท ไปขายยัง 15 ประเทศภายในปีนี้ อาทิ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร

งานเปิดตัว M*U Beverage ได้รับเกียรติจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ เซเลบริตี้ และผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เช่น อาร์บอนนีย์ เกเบรียล มิสยูนิเวิร์ส 2022, นาตาลี เกลโบว่า มิสยูนิเวิร์ส 2005 , แอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 รวมถึงมิสยูนิเวิร์ส อินเดีย 2022, มิสยูนิเวิร์สบาห์เรน 2022, มิสยูนิเวิร์ส ออสเตรเลีย 2022, มิสยูนิเวิร์ส ไอซ์แลนด์ 2022, มิสยูนิเวิร์สแอฟริกาใต้ 2022 และผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ทั้ง 77 จังหวัด เป็นต้น

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ