ห้องอาหารอิตาเลียนบริโอ (Brio) นำเสนอเมนูพิเศษต้อนรับเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ

บริโอ (Brio) ห้องอาหารอิตาเลียน ที่นำเสนอรสชาติอาหารอิตาเลียนแบบดั้งเดิม ด้วยเมนูอันหลากหลาย ตั้งแต่พาสต้าเส้นสดทำมือ ไปจนถึงพิซซ่าจากเตาถ่าน ในโรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท กรุงเทพฯ ขอนำเสนอเมนูพิเศษต้อนรับฤดูใบไม้ผลิตลอดเดือนตุลาคมนี้ กับ Pumpkin Specials

สำหรับเมนูประจำซีซั่นนี้ เชฟเลือกฟักทองมาเป็นไฮไลท์ประจำเทศกาล รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ ที่เลือกสรรตามฤดูกาล เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย สด ใหม่ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ เชฟยังพรีเซ็นต์อาหารแต่ละเมนูในเฉดสีส้ม, เหลือง และน้ำตาล เพื่อสื่อถึงบรรยากาศ และช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นได้อย่างลงตัวอีกด้วยฉ

สำหรับเมนูไฮไลท์ Pumpkin Special มีทั้งสิ้น 5 เมนู เริ่มจาก Crema Di Zucca Con Porcini E Amaretti ซุปครีมฟักทอง กับเห็ดพอร์ชินี่นำเข้าจากอิตาลี โดยเชฟเลือกนำใช้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เห็ดพอร์ชินี่มีรสชาติดีที่สุดของปี

ต่อด้วยอาหารจานหลักที่มีให้เลือกอิ่มอร่อยถึง 3 เมนูได้แก่ Risotto Alla Zucca รีซอตโต้ฟักทอง ท็อปด้วยฟัวกราส์, Petto D’anantra Scottato Padella อกเป็ดกับฟักทองบด ราดซอสไวน์แดง, Gnocchi Di Zucca ญ๊อกกี้ฟักทองเส้นสด หนึ่งในพาสต้าสุดคลาสสิคของอิตาลี ให้ความนุ่มหนึบและรสชาติกลมกล่อม โรยด้วยชีสนมแพะ และปิดท้ายกับเมนูของหวาน Torta Di Zucca พายฟักทองสไตล์อิตาเลียน โรยหน้าด้วยถั่วพีแคนเคลือบคาราเมล และไอศกรีมวนิลา

ขอเชิญชวนมาสัมผัสกับความพิเศษแห่งฤดูกาล และสีสันของอาหารอิตาเลียนในช่วงฤดูใบไม้ผลิกับ “Pumpkin Specials” ตลอดเดือนตุลาคมนี้เท่านั้น ที่ห้องอาหารอิตาเลียน Brio (บริโอ) อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร.0-2431-9489 มื้อกลางวัน เวลา 12.00-15.00 น. และมื้อค่ำ เวลา 17.00-22.00 น.

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ