ฮองมินชวนชิมตำนานอาหารเหลาแบบ เจ เจ ให้อิ่มท้องอิ่มบุญแบบสบายกระเป๋า

ฮองมิน(HONGMIN) ตำนานความอร่อยอาหารจีนขึ้นชื่อแบบอาหารเหลาแบบสบายกระเป๋า จากต้นกำเนิดของชาวจีนในแถบเยาวราช ยกขบวนอาหารเหลาในแบบฉบับอาหารเจเกือบ 70 เมนู มาร่วมเขย่าต่อมความอร่อยให้อิ่มเจ ฟินสุขตลอดเทศกาลเจในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น โหงวก๊วยกระทงเผือก ถั่วแขกผัดพริกเกลือที่สาดความอร่อยมาตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย ตามต่อมาด้วยเมนูสุดฮอตแบบอาหารจานเดียวของคนชอบเส้น อาทิ ราดหน้าฮ่องกงเจ หมี่ผัดฮ่องกงเจ และพีคสุด สุดกับเมนูหมี่ขาวกระเฉดเจ ที่คัดเฉพาะผักกระเฉดยอดอ่อนผัดด้วยไฟแรงคลุกเคล้ากับเส้นหมี่ขาวจนเข้ากัน ตามสูตรเฉพาะของฮองมินที่ไม่ควรพลาด หรือเมนูข้าวผัดจานร้อน อย่างข้าวผัดสุขภาพ 5 สี และพลาดไม่ได้กับ กระเพาะปลาเห็ดหอมน้ำแดง และเป๋าฮื้อผัดกะเพรา (เห็ดออรินจิ) ที่อร่อยกลมกล่อม แบบแอบเผ็ดนิดๆ เพิ่มมิติให้อาหารเจฟินขึ้นอีกหน่อยกับข้าวสวยร้อนๆสักจาน พร้อมขบวนติ่มซำที่นำทีมโดยเมนูซาลาเปาเจอีก 4 รส ทั้งหมูสับ
หมูแดงเจ ผักรวมและไส้ครีมสำหรับคนชอบหวานแบบกำลังดี และเผือกทอดหอมอร่อยที่เชฟฮองมินพร้อมเสิร์ฟความอร่อย ที่ปรุงสุขล้นใจ คุณค่าล้นจาน ให้ลูกค้าที่เข้ามาแวะชิมอาหารเหลาแบบเจ เจของฮองมินทั้ง 8 สาขา หรือทุกช่องทางจัดจำหน่ายได้อร่อยอิ่มใจไปด้วยกัน ตั้งแต่ วันที่13 – 23 ตุลาคมนี้

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถร่วมเป็นเจ้าขอเมนูอาหารเหลาแบบเจ เจ ได้ที่ร้านฮองมินทั้ง 8 สาขา หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเลือกใช้บริการเดลิเวอรี่ได้ที่ โทร. 02-026-6843 Line OA : @hongmin หรือ https://lin.ee/8DwWFm3 และ Facebook : ฮองมิน ภัตตาคารจีน – Hongmin

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ