งานแถลงข่าว “CBD First For Palliative Care” : ทางเลือกการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง เพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว

กรุงเทพมหานคร ( 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2566) : โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “CBD First For Palliative Care ทางเลือกการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองเพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว”

ท่านวิชัย ทองแตง นพ.จุมพล สิงห์หิรัญนุสรณ์ นพ.ศุภชาติ ชมภูนุช และ ดร.ก้องเกียรติ สุริเย

นำทีมโดย นพ.จุมพล สิงห์หิรัญนุสรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ร่วมด้วย นพ.ศุภชาติ ชมภูนุช แพทย์เฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง และ ดร.ก้องเกียรติ สุริเย Chief executive officer of GRD group (CEO of GRD group)

ภายในงานมีกิจกรรมการเสวนาในหัวข้อเรื่อง “การดูแลรักษาผู้ป่วยแบบประคับประคอง (Palliative Care) โดยใช้ ผลิตภัณฑ์น้ำมันเอ็มซีทีผสมสารสกัดซีบีดี” และมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มาร่วมเสวนาแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆระหว่างการรักษา และผลการรักษา

คณะผู้บริหารโรงพยาบาล

โดยการดูแลแบบประคับประคอง หรือ Palliative Care คือการดูแลทางการแพทย์แบบองค์รวม ที่มุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ช่วยลดความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมานทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ตลอดจนทางด้านสังคม และจิตวิญญาณ โดยจะคำนึงถึงความต้องการ (The living will) ของผู้ป่วยและครอบครัวเป็นสำคัญ

นพ.จุมพล สิงห์หิรัญนุสรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์

มีเป้าหมายและวิธีการดูแลเพื่อบรรเทาอาการไม่สุขสบายต่างๆ ที่เกิดกับผู้ป่วย เป็นการดูแลเพื่อป้องกันและบรรเทาความทุกข์ทรมาน ร่วมกับการดูแลทางด้านจิตใจ

ซึ่งหลักการการดูแลจะเริ่มจากการที่แพทย์ได้ประเมินทั้งปัญหาสุขภาพทางร่างกายและสภาพจิตใจของผู้ป่วย จากนั้นจะวางแผนการรักษา โดยใช้วิธีรักษาอาการรบกวนต่างๆ อย่างเหมาะสมเป็นรายบุคคล

ดร.ก้องเกียรติ สุริเย Chief executive officer of GRD group (CEO of GRD group)

แนวทางการดูแลรักษามีหลากหลายรูปแบบดังนี้

  1. การดูแลแบบประคับประคองด้านร่างกาย
  • การใช้ยาแผนปัจจุบันเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ทั้งยาในกลุ่มมอร์ฟีนและยาที่ไม่ใช่มอร์ฟีน
  • การใช้ยาทางเลือกอื่นๆ รวมทั้งการใช้สาร CBD เพื่อบรรเทาอาการและผลข้างเคียง เช่น อาการปวด คลื่นไส้อาเจียน อาการนอนไม่หลับ เป็นต้น
  • การทำกายภาพบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ
  • การปรับเปลี่ยนทางโภชนาการเพื่อความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา
นพ.ศุภชาติ ชมภูนุช แพทย์เฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง

2.การดูแลแบบประคับประคองด้านจิตใจ ให้คำปรึกษา พูดคุย รับฟัง ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและความเครียดทางด้านจิตใจ เข้าใจเป้าหมายและความคาดหวังที่แท้จริงของผู้ป่วยและครอบครัว ช่วยหาทางออกในกรณีที่ผู้ดูแลรู้สึกว่ามีปัญหารุมเร้า

  1. การดูแลแบบประคับประคองด้านสังคม เมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วยบ่อยครั้งที่ผู้ป่วยไม่กล้าพูดคุยกับญาติหรือผู้ดูแลเกี่ยวกับความรู้สึกและสิ่งที่ต้องเผชิญ การดูแลแบบประคับประคองของทางโรงพยาบาลจะมีทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือโดย Expert Care ที่เข้าไปเยี่ยม พูดคุย สอบถาม รวมถึงให้การช่วยเหลือผู้ป่วยในการหารือกับญาติและผู้ดูแล
  2. การดูแลแบบประคับประคองด้านจิตวิญญาณ การดูแลผู้ป่วยในโรคที่รักษาไม่หาย อาจมีความต้องการอยู่ในสถานที่ที่เงียบสงบ ต้องการให้ญาติมาเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ทางโรงพยาบาลและญาติผู้ป่วยจะช่วยกันค้นหาเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยให้ดีที่สุด ช่วยออกแบบสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดูแลผู้ป่วยและสะดวกต่อคนในครอบครัว ซึ่งจะสอดคล้องกับความปรารถนา ความเชื่อ ความรัก การให้อภัย รวมถึงศาสนาและพิธีกรรมต่างๆ

การดูแลแบบประคับประคอง (Palliative care) เป็นบริการที่ทางโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว ที่กำลังเผชิญหน้ากับโรคที่คุกคามต่อชีวิต (life-threatening illness) ซึ่งไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นโรคมะเร็งเท่านั้น การดูแลจะประกอบด้วยการให้คำปรึกษา วางแผนการป้องกัน และให้การรักษาแบบผสมผสานทั้งการใช้ยาและไม่ใช้ยา หรือใช้การรักษาทางเลือกอื่นๆ รวมถึงการใช้ CBD ร่วมด้วย เพื่อบรรเทาความทุกข์ ลดความเจ็บ ลดความทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ไปจนถึงให้การดูแลครอบครัวของผู้ป่วย

นพ.จุมพล สิงห์หิรัญนุสรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ กล่าวว่า “To Be The First Choice And To Be The Destination” กอปรกับปรัชญา “เป็นผู้นำในการสร้างสรรค์สุขภาพที่ดี เพื่อศักยภาพแห่งการใช้ชีวิต” คือภารกิจโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ที่ตั้งใจพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยปักหมุดกรุงเทพฝั่งตะวันออกให้ผู้รับบริการรวมถึงครอบครัวผู้รับบริการได้รับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจด้วยทีมบุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นการส่งมอบคุณค่าของการบริการอย่างแท้จริง

สำหรับผู้ที่สนใจบริการการดูแลแบบประคับประคองโดยใช้ CBD Frist นั้นสามารถเข้ามาติดต่อที่ศูนย์มะเร็งอายุรวิวัฒน์ ( Beyond Health Center ) โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ได้ด้วยตัวเอง หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2944-7111 หรือที่เว็บไซต์ https://www.phyathai.com/th/pytn

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ