ชวนเปิดประสบการณ์กับ ชาร์บง บาย ธรรมชาติซีฟู้ด (Charbon by Thammachart Seafood) ร้านอาหารใหม่ที่รังสรรค์เมนูด้วยศิลปะแห่งเปลวไฟ เปิดให้คุณลิ้มลองรสชาติความอร่อยที่แท้จริงได้แล้ววันนี้ ที่ เอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE)


กรุงเทพฯ [22 ธันวาคม 2566] – ชาร์บง บาย ธรรมชาติซีฟู้ด (Charbon by Thammachart Seafood) ร้านอาหารใหม่ล่าสุดเปิดตัวให้คุณลิ้มลองรสชาติความอร่อยที่แท้จริงได้แล้ววันนี้ ณ ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่อย่าง เอ็มสเฟียร์ (EMSPHERE) ชั้น G

ชาร์บง มาพร้อมศิลปะการรังสรรค์แต่ละเมนูที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น และได้รับแรงบันดาลใจในการปรุงอาหารผ่านเปลวไฟ กำหนดนิยามการทำอาหารไปอีกขั้น เพราะชาร์บงไม่เป็นเพียงร้านอาหาร แต่ยังมอบประสบการณ์สุดพิถีพิถันแต่ร้อนแรง ดึงรสชาติที่มาจาก “ศิลปะการปรุงอาหารด้วยไฟ” สร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา น่าหลงใหล และไม่เหมือนใครให้กับการรับประทานอาหาร ให้ทุกท่านได้สัมผัสและดื่มด่ำในรสชาติชั้นเลิศที่มาบรรจบกับจิตวิญญาณแห่งไฟไปพร้อมกัน


วัตถุดิบในทุกเมนู ได้คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดีตามมาตรฐานของธรรมชาติซีฟู้ด เป็นวัตถุดิบที่นิยมใช้ประกอบอาหารในโรงแรม และร้านอาหารชั้นนำ รวมถึงกลุ่มเชฟระดับมิชลินสตาร์ อาทิ ออสเตรเลียนร๊อคล็อบสเตอร์ ปลาหมึกยักษ์ออสเตรเลีย สแกลลอปฝรั่งเศส ชูโทโร่ญี่ปุ่น เจียเวอร์รี่คาเวียร์อิตาลี และหอยนางรมหลากหลายสายพันธุ์ทั่วทุกมุมโลกแบบเป็นๆ ใน live tank พร้อมเสิร์ฟทุกจานให้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากแหล่งที่ดีที่สุด รวมไปจนถึงการนำวัตถุดิบอย่างปลาหลากหลายชนิดและเนื้อสัตว์ อาทิ เนื้อออสเตรเลียวากิว และไอเบอริโกแฮม (Iberico ham) เข้าสู่กระบวนการดรายเอจ หรือการบ่มแห้ง ซึ่งขั้นตอนนี้ยังเป็นอีกหนึ่งในเอกลักษณ์ของทางร้าน ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ หรือ เนื้อปลาต่างๆ จะให้รสสัมผัสที่เข้มข้น พร้อมเนื้อในที่นุ่มชุ่มฉ่ำ

ชาร์บง ในภาษาฝรั่งเศส หมายถึงถ่าน อาหารของเราเป็นการผสมผสานศิลปะที่น่าหลงใหล ของการปรุงอาหารด้วยไฟ ต้นทางความคิดมาจากกรรมวิธีแรกเริ่มของการใช้ไฟเพื่อปรุงอาหาร เคล็ดลับการควบคุมระดับไฟให้เหมาะสมกับวัตถุดิบแต่ละอย่าง จะปลุกให้ทุกส่วนผสมออกรสได้เต็มที่และดึงรสชาติความอร่อยที่แท้จริงออกมาได้มากที่สุด เปลวไฟจากถ่านที่ย่างจะยิ่งเพิ่มกลิ่นหอมกรุ่นเฉพาะตัวและเนื้อสัมผัสที่ชวนให้ลิ้มลอง ผ่านการรังสรรค์โดย เชฟฝีมือชั้นเลิศอย่าง เชฟ Franck Le Bayon จาก ‘iODE’ หรือ ไอโอดี ที่มาร่วมงานในฐานะ Consultant Chef รวมถึง Executive Chef พร้อมทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านอาหารมามากกว่า 25 ปี

นอกจากนี้ ชาร์บง ยังจัดให้มี Star of The Week ให้ทุกท่านได้ลิ้มลองวัตถุดิบคุณภาพชั้นเยี่ยมที่หาโอกาสทานได้ยาก มีจำกัดตามแต่ละฤดูกาล ส่งตรงจากแหล่งกำเนิดทุกสัปดาห์ ที่เราจัดสรรมาเป็นเมนูพิเศษ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาไม่ซ้ำให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง อาทิ กุ้งลังกู้สตีนจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กุ้งแดงคาราบิเนรอสจากสเปน ไข่หอยเม่นจากไอซ์แลนด์ ปลาจอห์นดอรี่จากฝรั่งเศส และหอยเป๋าฮื้อจากออสเตรเลีย


“คุณภาพที่ถูกรังสรรค์ผ่านเปลวไฟ”
“คุณภาพคือมาตรฐาน ส่วนไฟคือแรงบันดาลใจของเรา” จูเลี่ยน แกทเทนบี้ เดวี่ส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าว “ที่ชาร์บงเราไม่เพียงแค่ปรุงอาหารเท่านั้น เรากำลังสร้างสรรค์ประสบการณ์ อาหารแต่ละจานผ่านกรรมวิธีเฉพาะ จนได้มาซึ่งรสชาติ เนื้อสัมผัส และกลิ่น ที่ถูกปลุกให้มีชีวิตขึ้นมาด้วยความมหัศจรรย์แห่งไฟ”

“พื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกัน”

ชาร์บงได้รับการออกแบบพื้นที่ให้มีความเป็นมิตร พร้อมต้อนรับทุกๆท่าน ตั้งแต่ผู้วัยหนุ่มสาวไปจนถึงลูกค้าวัยกลางคน “เป้าหมายของเราคือการสร้างพื้นที่ที่แบ่งปันช่วงเวลาต่างๆ และสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษระหว่างกัน” ศันสนีย์ แกทเทนบี้ เดวี่ส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดกล่าวเสริม “ชาร์บงไม่เป็นเพียงร้านอาหาร แต่เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหารการันตีคุณภาพ ความหลากหลาย และศิลปะในการนำเสนออาหาร”

ชาร์บง ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนสุขุมวิท เชื่อมต่อสกายวอร์กรถไฟฟ้า บีทีเอสจาก สถานีพร้อมพงษ์ โดยตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมพร้อมความสะดวกสบาย เข้าถึงง่าย อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบธรรมชาติทั่วโลกสุดคุณภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในประสบการณ์ ความแปลกใหม่ของอาหารและประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ขอเชิญทุกท่านมาลิ้มลองอาหารของเรา ที่มุ่งมั่นมอบมื้อสุดพิเศษให้กับคุณ นำเสนอความหลากหลายของเรื่องราวผ่านมื้ออาหารได้อย่างน่าประทับใจ ส่งมอบ “ศิลปะการปรุงอาหารด้วยไฟ” ให้กับทุกคน

#Charbon #Thesea #Theearth #Thegarden
#Sweet #Livetank #Newrestaurantinbangkok
#Bangkok #Charcoal
#Emsphere #EMDistrict #ThePulseofPeople #ThePulseofBangkok #Shoppertainment
#CraftedByFire #QualityInspiredByFire #MagicOfFire
#ExtraordinaryEats #FireAndFlavour #ElevateWithFire #FireAndFoodAlchemy

หากท่านต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่
Charbon by Thammachart Seafood – ชาร์บง
อีเมล: charbonbkk@gmail.com
เบอร์โทร: 061 693 0011
Facebook: https://www.facebook.com/Charbon.bkk
Instagram: https://www.instagram.com/charbon.bkk/
YouTube: https://www.youtube.com/@thammachart_seafood
.

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ