ชาคริต ร่วมมอบโชคทองคำ 2 ล้าน บิ๊กแคมเปญ ซองเก่าเลอรส ลุ้นเงินล้าน

 

จัดหนักแบบตะโกน ชาคริต แย้มนาม พรีเซ็นเตอร์ก๋วยเตี๋ยวเรือกึ่งสำเร็จรูปเลอรส พร้อมด้วย 2 ผู้บริหาร คุณเอย-พรภิชญา โพธิ์ทอง ผู้ก่อตั้ง คุณนิก-ธีระพันธ์ ไชยวงษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลอรส อินเตอร์ฟู้ดส์ จำกัด เดินหน้าแจกโชครับปีใหม่ 2566 ในแคมเปญ ซองเก่าเลอรส ลุ้นเงินล้าน (ครั้งที่ 1) ประเดิมLive! มอบรางวัลใหญ่ครั้งที่ 1 ทองคำมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ให้กับลูกค้าที่ส่งซองเปล่าเลอรสเข้ามาร่วมสนุก โดยแบ่งรางวัลจุกๆ ออกเป็น ทองคำ มูลค่า 10,000 บาท จำนวน 100 รางวัล และ ทองคำ มูลค่า 1 ล้านบาท จำนวน 1 รางวัล รวมทั้งสิ้น 101 รางวัล ท่ามกลางสักขีพยานมากมาย และกองทัพสื่อมวลชน ณ ไพเรท สตูดิโอ ซอยสุคนธสวัสดิ์ 23

นอกจากรางวัลทองคำแบบจัดหนักจัดเต็มแล้ว เลอรส ยังขนทัพ รถยนต์ Mercedes – Benz A200 AMG Dynamic มูลค่า 2,170,000 บาท มามอบโชคให้กับลูกค้าเลอรส โดยจะทำการจับแจก ครั้งที่ 2 ใน วันที่ 30 เมษายน 2566, ครั้งที่ 3 ใน วันที่ 31 กรกฏาคม 2566, ครั้งที่ 4 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 และครั้งที่ 5 ในวันที่ 12 มกราคม 2567 มูลค่าของรางวัลรวมในแคมเปญนี้กว่า 10,680,000 บาท

สำหรับใครที่พลาดโอกาสลุ้นโชคครั้งที่ 1 ก็ไม่ต้องเสียใจไป ชาคริต แย้มนาม พรีเซ็นเตอร์ก๋วยเตี๋ยวเรือกึ่งสำเร็จรูปเลอรส แอบกระซิบมาว่า ยังมีรถยนต์ Mercedes – Benz รออยู่อีก 4 คัน ในอีก 4 แคมเปญ สามารถร่วมสนุกกันได้ตลอดปี 2566 เพียงเขียนหรือพิมพ์ ชื่อ-ที่อยู่-เบอร์โทรศัพท์ ลงบนกระดาษ แล้วน้ำมาติดบนซองเปล่าก๋วยเตี๋ยวเรือกึ่งสำเร็จรูปเลอรส (รุ่นใหม่) แล้วส่งมาตามที่อยู่ ตู้ปณ 110 ปณจ. บางบู่ จ.สมุทรปราการ 10280 โชคใหญ่จากเลอรสอาจรอคุณอยู่

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ