OPPO A57 รุ่น RAM 4GB + 128GB ให้คุณใช้งานไหลลื่น ไม่มีสะดุดได้ง่ายยิ่งขึ้น

ในราคาใหม่เพียง 6,299 บาท!

20 กุมภาพันธ์ 2566 กรุงเทพฯ – OPPO A57 รุ่น RAM 4GB + ROM 128GB สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม ตอบโจทย์ประสิทธิภาพการใช้งานได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด พร้อมให้คุณใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น มาพร้อมราคาใหม่เพียง 6,299 บาท จากราคาปกติ 6,999 บาท ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป

โดย OPPO A57 รุ่น RAM 4GB + ROM 128 GB มาพร้อมหน่วยความจำแบบจัดเต็ม พร้อม RAM Expansion ที่เพิ่มหน่วยความจำได้อีก 4GB และพื้นที่จัดเก็บเพิ่มเติมถึง 1TB เสริมด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh พร้อมชาร์จไว 33W SUPERVOOC ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันไร้สะดุด และเต็มอิ่มทุกความบันเทิง ด้วยพลังเสียงที่สมจริงจากลำโพงสเตอริโอรอบทิศทาง  

 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13MP และกล้อง Depth 2MP ถ่ายรูปสวยด้วยโหมด Portrait มอบฉากหลังเบลอโหมด Nightscape ถ่ายภาพกลางคืนได้งดงามแม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย และ AI Portrait Retouching ให้คุณปรับแต่งภาพได้สวยงามเป็นธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย

และโดดเด่นด้วยตัวเครื่องดีไซน์ขอบเหลี่ยมสุดคลาสสิก มาพร้อมฝาหลังแบบ OPPO Glow Design มอบความเปล่งประกาย โดดเด่นสะดุดตา พร้อมป้องกันรอยนิ้วมือและรอยขีดข่วน สวยสะดุดตา น่าสัมผัส ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน 

โดย OPPO A57 รุ่น RAM 4GB + ROM 128 GB มาใน สี ให้เลือกได้แก่ สีเขียว Glowing Green สีดำ Glowing Black และ สีทอง Glowing Gold มาในราคาใหม่เพียง 6,299 บาท สามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/oppothai/

ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่: https://bit.ly/3zqW9nV

####

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ