ททท. ผนึกกำลังพันธมิตร เตรียมความพร้อมโครงการ Amazing Thailand Grand Sales 2023 กระตุ้นการช้อป กิน บิน เที่ยว ลดกระหน่ำทั่วประเทศ

 

บ่ายวันนี้ (26 พฤษภาคม 2566) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)    เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดโครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2023     พร้อมด้วย นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. หน่วยงานภาครัฐ สมาคม และพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 50 ราย ครอบคลุมห้างสรรพสินค้าชั้นนำจากทั่วประเทศ กลุ่มสายการบิน แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ e-commerce และกลุ่ม Privilege Card ร่วมประชุมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวภายใต้โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2023 ณ ห้องประชุมสุพรรณหงส์ อาคาร ททท.

 

 

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ Amazing Thailand Grand Sale เป็นหนึ่งในโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ ททท. จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งปีนี้พิเศษกว่าทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาของการท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ ททท. จึงได้เชิญชวนพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วประเทศโดยเฉพาะผู้ประกอบการในเมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร-เชียงใหม่-ภูเก็ต-อุดรธานี-ชลบุรี (พัทยา)-สงขลา (หาดใหญ่) รวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 ราย ร่วมมอบสิทธิพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวตลอดระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2566 เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็น 1 ใน 6 จุดหมายปลายทางของการช้อปปิง (Shopping Destination) ที่ทั่วโลกอยากมาเยือน โดยมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย และคุ้มค่า ควบคู่กับการส่งเสริม Soft Power และการสร้างมาตรฐานความยั่งยืน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว และส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเหนือระดับที่มีคุณค่าและความหมาย (Meaningful Travel)

 

โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2023 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม 2566 ภายใต้แนวคิด “Hunting Season” ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกับกิจกรรมล่าดีลเด็ดกว่า 10,000 รายการ จากผู้ประกอบการในเมืองท่องเที่ยวหลักทั้ง 6 จังหวัด เพื่อสร้างอิสระในการจับจ่ายในยุคหลังโควิด กระตุ้นค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวและเป็นโอกาสในการเข้าถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในราคาพิเศษ            โดยกิจกรรมส่งเสริมการขายแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยททท. ร่วมกับ Vat Refund แจกของที่ระลึกจาก 5 ชุมชน เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าที่รับ Vat Refund             ณ ศูนย์การค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 6 จังหวัด ครบ 5,000 บาท โดยรับของที่ระลึกได้ที่เคาน์เตอร์ Vat Refund ณ ท่าอากาศยาน  ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา    ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ส่วนที่2 สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย สามารถร่วมลุ้นรางวัลทุกสัปดาห์ เมื่อซื้อสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ ครบ 500 บาทต่อ 1 สิทธิ์ มูลค่าร่วมกว่า 2.5 ล้านบาท และสามารถรับกระเป๋า Shopping Bag เมื่อซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ ครบ 3,000 บาท ณ ศูนย์การค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 6 จังหวัด นอกจากนี้   ยังมีกิจกรรม PROMOTION CAMPAIGN พบส่วนลดสูงสุด 80% จากแบรนด์สินค้าไทย                  ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ พันธมิตรสายการบิน ช้อปปิงแพลตฟอร์ม รวมทั้งมอบสิทธิประโยชน์ส่วนลด     On Top แก่ผู้สมาชิก Privilege Card, VISA, The1, Mcard, Viz Card Union Pay หรือ NFT Community เป็นต้น และกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับพันธมิตรอื่นๆ เช่น กิจกรรม TikTok Creators Challenge กิจกรรม          See Post Get Code ผู้ที่เห็นรีวิวสินค้าภายใต้โครงการฯ จะได้รับโค้ดส่วนลดทันที กิจกรรม LIVE Flash Sale ไลฟ์นำเสนอสินค้าในราคาส่วนลด 80% ขึ้นไป ในวัน Pay Day ผ่านแพลตฟอร์ม Shopee และ LAZADA และกิจกรรมแข่งช้อป หรือ Shop Challenge ซึ่ง ททท. เชื่อมั่นว่า โครงการ Amazing Thailand Grand Sale 2023 จะเป็นโครงการทางการตลาดที่สำคัญในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว เพิ่มค่าใช้จ่าย กระจายรายได้หมุนเวียนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยไม่น้อยกว่า 75 ล้านบาท

 

           ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลและโปรโมชันท่องเที่ยวดี ๆ ได้ที่ Facebook : Amazing Thailand Grand Sale Official หรือ LINE OA : Amazing Thailand Grand Sale หรือศึกษารายละเอียดโครงการได้ที่ www.amazingthailandgrandsale.com  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ งานกลยุทธ์ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กองวางแผนลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ททท. โทร. 0 2250 5500 ต่อ 2940-2945

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ