อาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บาย ไอรีล ส่งมอบยาเม็ดแรกสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง
ผ่านโครงการยากำลังใจแก่ผู้ป่วยและผู้ดูแล 20,000 รายทั่วประเทศ

 

ไอรีล ไตรสารศรี ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะที่ 4 และผู้ก่อตั้ง อาร์ตฟอร์ แคนเซอร์ บาย ไอรีล ภายใต้บริษัท อาร์ต ออฟ ไลฟ์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด จัดงานเปิดตัว “โครงการยากำลังใจ” เพื่อส่งมอบยาเม็ดแรกสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ผ่านข้อมูลความรู้ที่ถูกต้อง รวมถึงแนวทางในการปฎิบัติตัวของผู้ป่วยมะเร็งในช่วงก่อนเข้ารับการรักษา ในรูปแบบสื่อสร้างสรรค์ที่ชื่อว่า “ยากำลังใจ” เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ณ Glowfish Hall 3 สาทรธานี
โดยสื่อความรู้นี้จะถูกส่งต่อไปยังกว่า 30 โรงพยาบาลรัฐที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งและผู้ดูแล จำนวน 20,000 รายทั่วประเทศ ได้เสริมสร้างกำลังใจที่ดี เพิ่มเติมองค์ความความรู้เกี่ยวกับโรค เพื่อจะได้นำไปปรับใช้และปฎิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับการรักษา และเพิ่มโอกาสอัตราการรอดชีวิตให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งไทย


โดยมีพันธมิตรเข้าร่วมสนับสนุนโครงการ ได้แก่ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ สถานวิทยามะเร็งศิริราช ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย และมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง อีกทั้งยังมีตัวแทนจากทางภาคเอกชนและภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมให้โครงการได้ลุล่วงวัตถุประสงค์อีกมากมาย อาทิ เชฟน่าน หงษ์วิวัฒน์ , ชลลดา สิริสัตน์ , รมิดา ประภาสโนบล และอนุชิต คำน้อย ซึ่งโครงการยังต้องการความสนับสนุนในการส่งต่อชุดยากำลังใจให้ครบตามเป้าหมายจำนวน 20,000 ชุดให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งและผู้ดูแลทั่วประเทศ ทั้งนี้ทางอาร์ตฟอร์ แคนเซอร์ บาย ไอรีล จึงขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการในการส่งต่อประโยชน์ดีๆแก่ผู้ป่วยมะเร็งไทย สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการยากำลังใจได้ที่ เว็บไซต์เทใจดอทคอม หรือสมทบทุนผ่านธนาคารไทยพานิชย์ สาขาศาลายา ประเภทบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี บริษัท อาร์ต ออฟ ไลฟ์ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เลขที่บัญชี : 316-108-0704
##############################

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ