WINE BIBBER MUSIC BAR & RESTAURANT
เสพดนตรีสดจากยุค 70’s-90’s สุนทรีพักผ่อน…

ถ้าพูดถึงเอกมัย หลาย ๆ คนคงทราบกันดีว่าเป็นแหล่งบันเทิงกลางกรุงอีกแห่งที่ได้รับความนิยมจากอดีตจนถึงในปัจจุบัน วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ สถานที่อีกแห่งที่ให้ความบันเทิง..แบบเสพดนตรี สุนทรีพักผ่อน อย่างแท้จริง นั้นคือ Wine Bibber Sangria ที่ตั้งอยู่ที่เอกมัยซอย 10

บรรยากาศหน้าร้าน ด้านหน้าร้านสามรถจอดรถได้ประมาณ 7 คัน แต่ทางร้านก็มีบริการรับรถไปจอดให้ (valet parking ) ได้ไม่ต่ำกว่า 50 คันค่ะ

ไวน์บี๊บเบอร์ แซงเกรีย (WINE BIBBER SANGRIA MUSIC BAR & RESTAURANT) เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1995 และล่าสุดได้ย้ายมาตั้งอยู่ที่เอกมัย ซอย 10 โดย “คุณยั่ม ปภาตพงษ์ ชัยปาณี” และ “ปาณิดล ชัยปาณี” (คุณใหม่) ผู้บริหารและเจ้าของ ทั้งสองท่านเป็นผู้ซึ่งหลงไหลในเสียงดนตรี และรสเลิศของไวน์

ร้านwine bibber เปิดมาตั้งแต่ปี1995 ที่ซอยทองหล่อระหว่างซอย7กับซอย9 ได้ประมาณ7ปี ย้ายมาอยู่ที่ปากซอยเอกมัย2 จนกระทั่งโควิดระบาดก็เลิกไป3ปีกว่าจึงได้มาเปิดใหม่ ณ ที่เอกมัยซอย10 จนถึงปัจจุบันร้านใหม่เปิดได้ตอนนี้ได้ประมาณ2 เดือนแล้ว

จุดเริ่มต้น…คุณยั่มเล่าว่า “เพื่อนทำร้านอาหารอยู่ซอยทองหล่อแต่ไม่มีดนตรี เราเลยชวนพี่ๆน้องๆเพื่อนๆที่รักดนตรีมาเล่นกันเองในช่วงแรก ไม่นานก็มีวงดังๆหลายๆวงที่คุ้นเคยกันมาเล่นเป็นประจำ เพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงสากลยุค 70’s-80’s ร้านเราจะมีศิลปิน ดารา celebrities มาเที่ยวและร่วมแจมกันมากมายจนร้านนั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และก็มีหลายๆที่ที่นำconcept ร้านอาหารมีวงเล่นเพลงยุคนี้เปิดขึ้นอีกมากมาย….”

คุณยั่มยังเล่าต่อว่า ” อุปสรรคใหญ่คือค่าใช้จ่าย ,ค่าเช่า, ค่าวงดนตรีซึ่งสูงมากในปัจจุบัน ถ้ามีลูกค้าหนาแน่นก็ไม่มีปัญหา และเมื่อกาลเวลาาผ่านไปเวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน ร้านก็ต้องเปลี่ยน concept บ้างนิดหน่อยเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ”
” เดิมที่ร้านมีวงดังๆเยอะมาก แต่บางวงก็เลิกไปบ้างเนื่องจากสมาชิกล้มหายตายจากไปบ้าง แยกทางกันไปบ้าง เช่น The Beatlenuts, Kaleidoscope, Big boy เป็นต้น ปัจจุบันวงดนตรีที่ลูกค้าชื่นชอบและเล่นอยู่ได้แก่ วง Generations, Cold Shot featuring อ้อง สุรสีห์, Flash, Blue Sapphires by จิรพรรณ อังศวานนท์, The Isn’t, วงชบา, Vertigo band, 30 UP band, Prode Tanapat & Mook, Fabfour, The Drivers ”

คุณยั่มบอกว่าที่ร้านก็มีเมนูแนะนำ คือ ขนมปังหน้าหมู, ขาหมูเยอรมัน, ซี่โครงหมูบาร์บีคิว, ซุปครีมเห็ด, ยำเนื้อ, สปาเก็ตตี้ซอสเนื้อ,ผัดไทยกุ้ง เมนูพวกนี้คือลูกค้ามาจะสั่งกันเกือบทุกโต๊ะค่ะ

ร้านตกแต่งสไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style) สไตล์การตกแต่งที่ดูสดใสมีชีวิตชีวา ใช้สีและลวดลายเลียนแบบธรรมชาติในเมืองร้อน เช่น สีฟ้า, เขียว, เหลือง wall paperพิมพ์ลายใบไม้ใหญ่ ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักร้อน เหมาะกับการพักผ่อน สบายและผ่อนคลาย เน้นบาร์ให้โดดเด่น เราน่าจะเป็นร้านที่มีcounter bar ยาวที่สุดในย่านนี้

Promotion

Happy hours 5-8.00pm ทุกวันbeer- ซื้อ1แถม1 , standard cocktail ซื้อ1แถม1 all night,
Ladies night ทุกอังคาร,พุธ 6-9pm 1 FREE cocktail for each lady

Italian Soda Strawberry

Mojito 

Italian Soda Lychee 

The Red Bibber

Red Notice

เฟรนช์ฟรายส์

มันฝรั่งทอด

ขนมปังหน้าหมู

ซุปครีมเห็ด

ซีซ่าร์สลัด 

สปาเก็ตตี้ ซอสเนื้อ

สปาเก็ตตี้ เบค่อนพริกแห้ง

ขาหมูเยอรมัน 

บาร์บีคิวซี่โครงหมู

ยำเนื้อเซอร์ลอยน์ 

”สำหรับดนตรีสดจะเริ่มตอนสองทุ่ม เพราะถ้าเริ่มช่วงหัวค่ำ รถจะติดมากคะ ลูกค้ามาไม่ทันวงแรก โดยช่วงหัวค่ำ จะประเดิมด้วยเพลงสไตล์เบาๆ ก่อน เพื่อลูกค้าจะได้คุยกันรู้เรื่อง และดึกๆจะเริ่มคึกคักไปเรื่อยๆ เป็นแนวร็อค ป๊อบ และหลากหลาย รับรองว่ายิ่งดึกยิ่งสนุก เรายังฟังเพลินจนลืมเวลากลับบ้าน”

WINE BIBBER MUSIC BAR & RESTAURANT

เลขที่ 73 ซอยเจริญมิตร เอกมัย 10 สุขุมวิท 63 ถ.คลองตันเหนือ
เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย, 10110

(ร้านเปิด เวลา 17.00 น) ร้านเปิดทุกวันบยกเว้นวันจันทร์ร้านปิด

TEL. +66 92 912 4620 , 02 -382 26 78

เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/WineBibberSangriaBangkok/

#winebibber #wbb #ekamai #livemusic #musicbar #pub #bar #Bangkok #bkkmusic

By admin

You missed

“เมดีซ กรุ๊ป” โชว์กำไรสุทธิ Q1/68 ที่ 74.63 ลบ. โตแรง 27% กวาดรายได้รวม 228.74 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YOY หลังความต้องการบริการด้านเซลล์ต้นกำเนิดสูง Dealer-Agent ขยายตัว หนุนทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัท กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 74.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58.91 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 228.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 190 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ประมาณ 31% – 40% ในไตรมาสที่ 1/2567 ไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิ ที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นเกิดจาก ในไตรมาสที่ 1/2568 กลุ่มบริษัทฯ สามารถรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงอัตรากำไรจากการดำเนินงาน ได้ในระดับที่ดี รวมถึงมีรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดน้อยลงจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอากรในการยกเว้นการเสียภาษี ผ่านโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกำไร และรายได้ เกิดจากภาพรวมในการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดสำหรับเด็กเกิดใหม่ ซึ่งจะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แข็งแรง และมีความพร้อมสำหรับการนำไปใช้ในอนาคต ด้วยความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้แนวโน้มในการจัดเก็บยังมีความต้องการที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ มีการเพิ่มขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯเอง รวมถึงเพิ่มพันธมิตรทางการค้า ที่เป็นตัวแทนให้บริการ (Dealer) และตัวแทนจำหน่าย (Agent) ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทฯ มีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ รวมถึงในปี 2568 กลุ่มบริษัทฯ มีการเปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ การจัดเก็บเซลล์รากผม ที่กลุ่มบริษัทฯ เริ่มมีรายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 จำนวน 3 ล้านบาท โดยคิดเป็น 2% ของรายได้จากการขายและการให้บริการ